สธ. คุมเข้มตรุษจีน
แนะซื้อเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ปลอดภัย เลี่ยงอาหารมันเยิ้ม
กระทรวงสาธารณสุข
ลงพื้นที่ย่านเยาวราช รณรงค์เลือกซื้ออาหารประเภทเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้
สะอาดปลอดภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน คุมเข้มการปรุงประกอบอาหารก่อนบริโภค
แนะประชาชนหลีกเลี่ยงอาหารประเภทผัด ทอด ที่มีน้ำมันเยิ้ม
หวั่นโรคอ้วนคุกคามสุขภาพ พร้อมย้ำหลัก 3 ส. สุกเสมอ สะอาด
และสงวนคุณค่า
วันนี้ (7 กุมภาพันธ์
2556)นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย
ในการเยี่ยมชมเมนูชูสุขภาพสู่อาหารปลอดภัยในตลาดเยาวราช ว่า
ช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปี
การจำหน่ายสินค้าภายในตลาดหรือแหล่งเลือกซื้อสินค้าต่างๆ
คึกคักเป็นพิเศษ
ประชาชนที่เลือกซื้อสินค้าจึงต้องให้ความสำคัญในเรื่องความสะอาดปลอดภัย
โดยเฉพาะการเลือกซื้อเป็ด ไก่ ต้องสดใหม่ เนื้อแน่นสะอาด ไม่มีสีคล้ำ
ไม่มีจ้ำเลือด ไม่มีการ ทาสีตามตัว ไม่มีกลิ่นเหม็น
ส่วนเนื้อหมูต้องเลือกเนื้อหมูที่มีสีแดงตามธรรมชาติ ไม่มีกลิ่นเหม็น
และที่สำคัญต้องไม่มี เม็ดสาคูหรือตัวอ่อนของพยาธิตัวตืด
เพื่อความปลอดภัยควรเลือกซื้อจากแหล่งที่ได้รับรองมาตรฐานว่าถูกสุขอนามัย
สำหรับผักและผลไม้สด
ควรเลือกซื้อผลไม้ตามฤดูกาลจะได้ผักและผลไม้สดใหม่มีคุณภาพ
สังเกตที่เนื้อผักและผลไม้ ต้องแน่น สีสดเป็นธรรมชาติ ไม่เหี่ยวเฉา
เน่าหรือช้ำ หรือขึ้นรา ไม่มีเศษดินหรือคราบสกปรก รวมทั้งคราบสีขาวของ
ยาฆ่าแมลง
ผักและผลไม้สดก็ต้องเลือกจากแหล่งที่เชื่อถือได้และมีเครื่องหมายรับรอง
ส่วนไข่เป็ด ไข่ไก่ ต้องมีลักษณะ
ผิวนวลคล้ายแป้งเคลือบอยู่ที่เปลือกไข่ เปลือกไข่ต้องไม่แตกร้าว
ไม่มีคราบมูลสัตว์ หรือคราบสกปรกติดมา
วิธีการสังเกตไข่สดใหม่จะมีน้ำหนักมากกว่าไข่เก่า
และเมื่อเขย่าจะไม่มีเสียงคลอน
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวต่อว่า
ก่อนการปรุงอาหารต้องล้างวัตถุดิบทุกครั้ง
โดยเฉพาะผักสดต้องล้างด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง สำหรับผักบางชนิด เช่น
คะน้า กะหล่ำ ถั่วฝักยาว หากมีคราบขาวจับที่กาบใบหรือฝักมากเกินไป
ให้ล้างน้ำหลาย ๆ ครั้ง
และคลี่ใบถูหรือล้างด้วยการเปิดน้ำไหลผ่านผักสดอย่างน้อย 2 นาที
หรือใช้สารละลายอื่นๆ ในการล้างหรือแช่นานประมาณ 5 นาที อาทิ น้ำเกลือ
น้ำปูนคลอรีน น้ำส้มสายชู โซดา และน้ำยาล้างผัก เป็นต้น
แล้วจึงนำผักสดมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งก็สามารถลดหรือขจัดพิษภัยต่างๆ
ในผักสดออกได้
ทั้งนี้
การปรุงประกอบอาหารผู้บริโภคควรยึดหลัก 3 ส. คือ 1. สุกเสมอ
เนื้อสัตว์ต้องปรุงให้สุกทั่วทั้งชิ้นด้วยอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 70
องศาเซลเซียส เพื่อเป็นการทำลายเชื้อโรคประเภทแบคทีเรีย ไวรัส
พยาธิใบไม้ในตับ พยาธิตัวตืดที่อยู่ในเนื้อสัตว์ รวมทั้งโรคไข้หวัดนก
และก่อนนำมารับประทานควรอุ่นให้สุกอีกครั้ง 2. สะอาด
การเก็บรักษาวัตถุดิบ ประเภท ไก่ ไข่ หมู
จะต้องเก็บในภาชนะที่สะอาดแยกเป็นสัดส่วนเฉพาะ
และต้องเก็บไว้ในอุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส และ 3.
สงวนคุณค่า ปรุงอาหารโดยคงไว้ซึ่งคุณค่าทางโภชนาการ เช่น
นึ่งผักหรือลวกผักก่อนจะนำมาผัดหรือผ่านความร้อนด้วยเวลาสั้น
ๆ
ด้าน นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน
ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
ควรเลือกรับประทานอาหารที่ปรุงด้วยการต้ม นึ่ง อบ
แทนการผัดหรือทอดด้วยน้ำมันมากเกินไป เลี่ยงเนื้อสัตว์ติดหนัง ติดมัน
และให้ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผักผลไม้สดหลังมื้ออาหารทุกครั้ง
แต่สำหรับผู้ที่นิยมรับประทานขนมเซ่นไหว้ เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน
ซึ่งมีส่วนประกอบหลักเป็นแป้งและน้ำตาลจำเป็นต้องจำกัดปริมาณในการรับประทาน
เพราะหากรับประทานมากเกินไป
พลังงานที่ใช้ไม่หมดจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในร่างกาย
ส่งผลให้มีน้ำหนักเกิน อ้วน และเกิดโรคอื่น ๆ ตามมาได้
กุมภาพันธ์ 1/7****************** 7
กุมภาพันธ์ 2556
|